แขวงทวีวัฒนา, เขตทวีวัฒนา, กรุงเทพฯ 10170
รางวัลยางรถยนต์
เชื่อว่าในบ้านเรา ยังคงมีอีกหลายๆ คนที่มีใจรักทางด้านของรถแรง, รถแต่ง และรถแข่ง ยังงง และสงสัยกันอยู่มากพอสมควรกับเรื่องราวของยางเรเดียล กับยางสลิค เพราะบ้างก็บอกว่าในเมื่อยาง SLICK มันใช้ได้ดีกับรถแข่ง ถ้ายังงั้นเอามาใส่ในรถบ้านมันก็จะยิ่งทำให้การขับขี่ดีขึ้นนะสิ หรือบางคนก็ยังคิดว่ายาง RADIAL จะสามารถนำมาใช้ Burn แบบมันส์ๆ ได้เหมือนยาง SLICK ซึ่งนั่นล้วนแล้วแต่เป็นความเข้าใจที่ผิดๆ และถ้าคุณยังเข้าใจอยู่อย่างนั้น ขอบอกว่ามันส่งผลเสียต่อชีวิตของคุณอย่างแน่นอนครับ ดังนั้นวันนี้ทางทีมงาน Boxzaracing.com จึงได้หยิบเอาความรู้ในเรื่องนี้แบบคร่าวๆ มาให้ได้ลองอ่าน และศีกษาทำความเข้าใจกัน จะได้เลือกใช้ยางรถให้ถูกประเภท ก่อนอื่นเลยต้องเข้าใจอย่างนึงว่า ยางรถยนต์ที่ทำออกมาใช้งานตามท้องถนน มันจะต่างจากยางที่ทำออกมาเพื่อใช้ในการแข่งขันอย่างสิ้นเชิง แถมลักษณะการใช้งานก็จะแตกต่างกันออกไปด้วย เอาอย่างนี้มาปูพื้นฐานความรู้เรื่องยางกันที่ยางรถยนต์ธรรมดาทั่วๆ ไปที่เรียกว่า RADIAL กันก่อน แล้วเสร็จจากตรงนี้ค่อยไปดูกันที่ยางที่ใช้แข่งขันก็แล้วกัน ลักษณะของยางเรเดียล ยางเรเดียล (RADIAL) ยางเรเดียล เป็นยางที่โรงงานผู้ผลิตทำออกมาให้มีโครงสร้างของยาง โดยโครงสร้างภายในจะสานออกมาเป็นใยตาสานไขว้กัน โดยในยุคแรกๆ ของยางเรเดียล เพื่อให้เกิดความแข็งแรงก็จะมีการเสริมใยเหล็กเข้าไปที่ตัวยาง เพื่อเน้นให้มีความทนทานมากที่สุด และในบางครั้งก็ยังใส่ยางในเข้าไปด้วย ซึ่งก็ต้องคอยลุ้นกันว่ายางในมันจะระเบิดเมื่อไหร่ ถ้าในความเร็วต่ำก็อาจแค่ตกใจ แต่ในความเร็วสูงก็ควรหาพระดีๆ เอาไว้คุ้มภัย เวลารถมันเสียหลักลงข้างทาง ส่วนประกอบหลักๆ ของยางเรเดียล แต่ที่พูดมานั้นเป็นยางเรเดียลยุคแรกๆ แต่ในปัจจุบันยางเรเดียล ไม่ได้มียางใน หรือเสริมใยเหล็กอีกแล้ว แต่จะเน้นการผลิตเนื้อยางให้มีความทนทานมากขึ้น ซึ่งอย่างที่บอกเอาไว้ว่า ยาง RADIAL จะยังมีโครงยางขึ้นรูป และเนื้อยางก็จะทำออกมาเพื่อใช้ขับขี่บนท้องถนนเป็นหลัก เพราะฉะนั้นเนื้อยางจะต้องออกแบบให้วิ่งบนถนนแห้ง ,ยางมะตอย และ ASPHALT CONCRETE แถมยังจำเป็นที่จะต้องลุยฝ่าน้ำเจิ่งนองได้ดี รวมทั้งในบางโอกาสก็จะต้องลุยผ่านโคลนยามฝนตกใหม่ๆ ได้ด้วย แต่ถ้าเป็นลักษณะยางแข่งขันจะแบ่งประเภทการใช้งานไว้อย่างชัดเจน เอาไว้ตรงนี้เดี๋ยวจะพูดไปในส่วนของยางแข่งขัน ซึ่งตามคุณสมบัติของยาง RADIAL นั้นจะต้องมีการสึกหรอที่ไม่สูงจนเกินไป เพราะรถใช้งานจะมามัวเปลี่ยนยาง 3 เดือนทีก็ไม่ไหว ฉะนั้นตามความเป็นจริงก็ต้องบอกว่าเนื้อยางเรเดียล ค่อนข้างที่จะมีการเกาะถนนที่น้อยกว่ายางแบบสลิค อย่างแน่นอน ซึ่งเมื่อมีปัญหาการเกาะถนน ที่สู้ยางแข่งไม่ได้ จึงทำให้บริษัทผู้ผลิตยางเหล่านี้จึงออกแบบยาง RADIAL ที่สามารถนำมาใช้ในการแข่งขันได้ โดยยางประเภทนี้จะถูกเรียกว่า RADIAL SLICK ซึ่งความเป็นจริงการสร้างยางลักษณะนี้ก็แทบไม่แตกต่างจากยาง RADIAL โดยทั่วๆ ไป โครงสร้างยังเหมือนเดิม แต่จะมีการออกแบบเนื้อยางให้มีความเหนียวหนึบกว่าเดิม และหากใช้ในรูปแบบการแข่งขันอย่างแดร็ก หรือเซอร์กิต ลักษณะของยาง RADIAL SLICK แบบนี้แน่นอนว่าหากนำมาใช้ในการแข่งขันก็ต้องเลือกให้เหมาะกับการนำไปใช้ บางตัวทำเพื่อเซอร์กิต และบางตัวก็ทำมาใส่กับแดร็ก โดยเฉพาะ ตัวอย่างรถแข่งที่ใช้ยาง RADIAL DRAG โดยยาง RADIAL DRAG ที่เราคุ้นหน้าคุ้นตาก็จะเป็นยาง HOOSIER และก็ยังมียาง GOODYEAR รวมทั้งยาง BF GOODRICH และอีกมากมายหลายยี่ห้อ ซึ่งถ้าหากถามว่าแล้วทำไมไม่ทำให้มันเป็นยางสลิค ซะเลย อะไรที่มันดูก้ำกึ่ง ก็จะสามารถทำได้อย่างร้อยเปอร์เซ็นต์ เหมือนการถ่ายแรงม้าลงพื้น RADIAL ก็จะทำได้ไม่ดีเท่า SLICK แต่ที่ทางค่ายยางต้องทำสินค้าให้มีออกมาหลากหลายก็เพราะเพื่อตอบรับกับ ความต้องการของผู้บริโภค เนื่องจากบางคนต้องการทำรถเอาไว้ใช้งาน และใช้ในการแข่งขันได้ด้วย หรือที่เรียกกันว่า STREET DRAG ฉะนั้นยางก็จะต้องใช้วิ่งบนถนนได้ และก็จะต้องสามารถใช้ในการแข่งขันได้ดีอีกด้วย ลักษณะของยางสลิค ยางสลิค (SLICK) ความหมายของยางสลิค จริงๆ นั้น หมายถึงยางที่ไม่มีโครงยาง แต่จะเป็นการปั๊มขึ้นรูปขึ้นมา จะสังเกตได้จากเวลายางติดตั้งอยู่ในรถเราจะเห็นเหมือนยางรั่วซึม และเห็นเนื้อยางเป็นริ้วๆ เวลาโดนน้ำหนักกดทับลงไป และในจังหวะออกตัว เนื้อยางมีความเหนียวนุ่มเป็นพิเศษ แค่เพียงใช้มือสัมผัสกับผิวยางก็จะรับรู้ได้ว่ามันเหนียวหนึบกว่าเนื้อยาง ที่เป็น RADIAL แท้ๆ โดยส่วนใหญ่เราจะเห็นยาง SLICK มักจะนำมาใช้ในการแข่งขันรูปแบบแดร็ก เรซซิ่ง(Drag Racing) ถามว่าแล้วทำไมยางสลิค ถึงต้องใช้ในวงการแดร็ก เรซซิ่ง กันอย่างหนาตา อย่าลืมซิครับว่า การแข่งขันรูปแบบนี้มันเป็นการทำเวลาให้ได้เร็วที่สุดในระยะทาง 402 เมตร และคิดง่ายๆ หากคุณจะทำเวลาให้ได้เร็วที่สุดก็จะเป็นที่จะต้องใส่แรงม้ามันเข้าไปเยอะๆ และเมื่อแรงม้าเยอะ คุณก็จะต้องจับมันลงพื้นแทร็ค(Track) ให้ได้ครบทุกตัว ซึ่งพอเป็นอย่างนี้จะทำยังไง ก็จะบอกให้ว่าคุณก็ต้องหายาง SLICK มาใส่มันเข้าไป เพื่อให้แรงม้าเป็นพันๆ ตัวถ่ายเทลงพื้นได้อย่างหมดจด ซึ่งนอกจากจะใช้ในการแข่งขันแดร็ก หรือควอเตอร์ไมล์แล้ว ก็ยังใช้ในการแข่งขันเซอร์กิตได้อีกด้วย ตัวอย่างรถแข่งที่ใช้ยางสลิค สำหรับการแข่งเซอร์กิต เนื้อยางของการแข่งขันเซอร์กิต กับการแข่งขันแดร็กจะแตกต่างกันออกไป ยาง SLICK สำหรับ Circuit จะมีเนื้อยางที่แข็งและมีโครงสร้างของยางมากกว่า แต่สำหรับยาง SLICK สำหรับ Drag จะเน้นที่เนื้อยางนิ่มหนึบโครงยางไม่ค่อยเน้นให้เป็นรูปร่างมาก นักเพราะไม่ต้องการไหล่ยางเอาไว้เข้าโค้งแต่อย่างใด แต่จะใช้ขับสำหรับทางตรงๆ เท่านั้น โดยจะปั๊มเอาไว้ว่า DRAG SLICK ซึ่งหมายถึงว่ายางสลิค ที่ใช้กับการแข่งขันแดร็กเท่านั้น ตัวอย่างรถแข่งที่ใช้ยางสลิค สำหรับการแข่งแดร็ก ซึ่งในการใช้งาน อันนี้หล่ะ จำเป็นที่จะต้องเบิร์นยางกันอย่างจริงจัง เพราะเจ้ายางประเภทนี้จำเป็นต้องเบิร์น ให้เนื้อยางให้ได้อุณหภูมิที่ เหมาะสม เนื้อยางถึงจะจับกับพื้นแทร็คได้ดี และย้ำอีกเช่นกัน ในทางกลับกันหากยางประเภทนี้เบิร์น ไม่ได้ที่มันถึงกับเป็นสาเหตุให้รถแข่ง พลิกคว่ำหรือหลุดออกจากแทร็คได้ในพริบตากันเลยทีเดียว และคิดดูก็แล้วกันว่ารถแข่งที่หลุดออกจากแทร็คบนความเร็วเกือบ 300 กม./ชม. มันจะสร้างความเสียหายได้มากขนาดไหน
รู้ไหมครับว่า ยางรถแข่ง กับ ยางรถยนต์ทั่วไป ต่างกันอย่างไร ยางรถแข่งถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในสนามแข่งรถโดยตรง รองรับความเร็วสูง และ...
View DetailLorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipisicing elit. Quaerat, consequuntur exercitationem repudiandae dolores reprehenderi...
View DetailLorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipisicing elit. Quaerat, consequuntur exercitationem repudiandae dolores reprehenderi...
View Detail